22.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 8 แถว Q เคาน์เตอร์สายการบินการ์ตา แอร์เวย์ (QR) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกท่านก่อนขึ้นเครื่อง
01.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโดฮา ประเทศการ์ตา โดยเที่ยวบิน QR 837 (ใช้เวลาเดินทาง 6.15 ชั่วโมง)
05.15 น. ถึงกรุงโดฮา เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงวอร์ซอว์ (Warsaw) ประเทศโปแลนด์ เที่ยวบินที่ QR 259 (ใช้เวลาเดินทาง 6.00 ชั่วโมง)
12.05 น. ถึงกรุงวอร์ซอว์ (Warsaw) เมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ (Poland) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
นำท่านชมพระราชวังหลวง Royal Castle ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสเดิมเป็นไม้แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นอิฐ เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปล รวมทั้งซาร์ จากรัสเซียด้วย และต่อมาเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีก่อนถูกนาซี ทำลายในปี ค.ศ. 1994 และได้รับการบูรณะใหญ่ในช่วง 70 ต่อจากนั้นชมย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ซึ่งถือได้ว่าเป็นจัตุรัสที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโปแลนด์ มีอายุย้อนไปในศตวรรษที่ 14 แต่อาคารส่วนใหญ่ ที่เห็นเกิดขึ้นจากการสร้างอาคารของพ่อค้าที่ร่ำรวยในศตวรรษที่ 17 ทำให้ด้านหน้าของอาคารถูกตกแต่งอย่างวิจิตร และตกแต่งกันตามความชอบของเจ้าของมีทั้ง โกธิค เรอเนซองค์ บาโรค และ นีโอคลาสสิค
จากนั้นนำท่านผ่านย่าน Nowy Swiat Street เพื่อชม KrakowskiePrzedmiescic streets ถนนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงวอร์ซอ สองข้างถนนประกอบไปด้วยพระราชวังต่างๆเช่นพระราชวังลาเซียนสกี้ตึกรัฐบาลร้านอาหาร ผับ บาร์ มีต้นไม้ร่มรื่นยืนต้นให้เห็นได้ทั่วไป
ชมโบสถ์เซนท์แอนนา St. Anna Church สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคในช่วงศตวรรษที่ 16
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Leonardo Royal Hotel Warsaw หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 นำท่านชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง King John III (Wilanów museum of king jan iii's palace at wilanów) เป็นพิพิธภัณฑ์ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งถือว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศและเป็นที่เก็บมรดกทางราชวงศ์และศิลปะของประเทศ ของสะสมประกอบด้วยของมีค่าที่รวบรวมโดยเจ้าของพระราชวัง Wilanów กษัตริย์แห่งโปแลนด์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
13.00 ให้เวลาท่านได้เดินเล่นและช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย
15.00 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมาลบอร์ก (Malborg) (315 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Centrum Malbork Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม ปราสาทมาลบอร์ก (Malborg Castle) ชมป้อมยุคกลางที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป สร้างในศตวรรษที่ 13 แต่เดิมเป็นวิหารของนักรบศาสนาคริสต์ นิกายทอยโทนิค (Teutonic Order) โดยมีอาคารเพียง 2 ปีก คือปีกทิศเหนือกับทิศตะวันตก หลังปีค.ศ. 1309 นิกายดังกล่าวเริ่มเสื่อมลงหลายป้อมทางด้านตะวันออกถูกโจมตีและแตก ทำให้ผู้นำนิกายดังกล่าวได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่จะย้ายที่พักชั่วคราวจากเวนิช ไปยังบริเวณแคว้นรัสเซียซึ่งลัทธิดังกล่าวยังมีอิทธิพลสูงอยู่ ดังนั้นมาลบอร์กจึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมือ งหลวงลัทธิดังกล่าว เนื่องจากที่ตั้งอยู่ใจกลางเขตอิทธิพลซึ่งถือว่าเป็นจุดที่มีความปลอดภัยสูง ตัววิหารได้ถูกต่อเติมให้เป็นปราสาทในช่วง 20 ปีต่อมา รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 20 เฮคตาร์ (12,5000ไร่) ตัวปราสาทถูกแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ ปราสาทบน ปราสาทกลาง และปราสาทล่าง ซึ่งทั้งสามปราสาทแยกกันโดยอิสระ มีระบบป้องกันตนเองอย่างสมบูรณ์มีระบบน้ำอิสระแยกขาดออกจากกัน มีที่เก็บอาหารแยกจากกัน สามารถป้องกันตนเองได้นานหลายปีหากถูกปิดล้อม แต่เนื่องจากนิกายดังกล่าวได้พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1410 ที่กรุนวาลด์ ทำให้มีการเซ็นสัญญาสงบศึกเวลาต่อมาและถูกบังคับให้ออกจากมาลบอร์กในปี ค.ศ. 1466 ตัวปราสาทถูกทอดทิ้งแต่บัดนั้นมา และก็เสียหายไปตามกาลเวลาและได้รับการบูรณะในศตวรรษที่ 19 และ 20 แต่ก็เสียหายอีกจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และก็ได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้งดังที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน และด้วยความยิ่งใหญ่และสำคัญทางด้านศิลปะในยุคกลาง ทำให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1997
หลังจากนั้นนำท่านชมเมืองเก่า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่านเดินทางสู่ เมืองกดังส์ (ระยะทางประมาณ 66 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
เมืองกดังส์ (Gdansk) ถือว่าเมืองศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของสหภาพแรงงานโซลิแดริตี้ที่มีนายเลค วาเวนซ่าเป็นประธาน หลายคน หลังจากการต่อสู้ของสหภาพนี้เองที่ทำให้โปรแลนด์กลายเป็นประเทศประชาธิปไตยที่เจริญรุดหน้ากว่าประเทศยุโรปทั้งหลาย ที่หลุดจากโซเวียตในเวลาใกล้เคียงกัน เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลโปแลนด์ โดยมีการร่างต้นฉบับแบบเมืองไว้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1343 (ค.ศ.1886) ชาวโปลจึงได้สร้างเมืองขึ้นใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมในร่างต้นฉบับเมืองเดิม และเป็นผลสำเร็จหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับศูนย์กลางของเมืองนั้น มีอยู่ 3 ส่วน ภายในเขตกำแพงเมือง ชมเมืองกดังส์ คุณจะได้พบกับถนนที่มีเสน่ห์ที่สุดของยุโรปตอนเหนือได้ที่นี่ นำท่านไปชมคือ เมืองเก่ายุคกลางอันงดงาม อาทิ ที่ทำการเทศบาลMain Town Hall และโบสถ์ใหญ่ศิลปะแบบโกธิคที่มีชื่อว่า โบสถ์เซนต์แมรี่ (Church of St. Mary) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ก่อสร้างด้วยอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1502 (พ.ศ. 2045) สามารถจุผู้ที่มาเยี่ยมชมได้ถึง 25,000 คน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Radisson Hotel & Suites , Gdansk หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองโตรุน (Torun) (ระยะทาง 149กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) เป็นเมืองการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโปแลนด์ หลังจากที่องค์การ ยูเนสโก ประกาศจัดอันดับให้อยู่ในรายชื่อเมืองมร ดกโลกภายในตัวเมือ งมีอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์อันสวยงามอยู่ดาษดื่นโด่งดัง ไม่น้อยไปกว่าเมืองคราคูฟ โปซนาน หรือโวสลาฟ โตรุน (Torun) จึงปรากฏอยู่ในแผนที่ของเมืองท่องเที่ยวติดอันดับในทวีปยุโรป สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเมื่อท่านมาเยือนเมืองโตรุน (Torun) คือทิวทัศน์สวยงาม อันเป็นผลมาจากการอนุรักษ์ ดูแลรักษาเป็นอย่างดีของสถาปัตยกรรมและอาคารเก่าแก่ที่สวยงาม ซึ่งความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากการควบคุมดูแลภายใต้คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัย Copernicus …
ชมเมืองโตรุน (Torun) สร้างโดยอัศวินเยอรมัน คริสเตียนนิกายทอยโทนิค (Teutonic Order) เฮอมานน์ ฟอน บาล์คโดยสร้างเป็นป้อมในกลางศตวรรษ ที่ 13 (ปี ค.ศ. 1231) เพื่อเป็นศูนย์กลางการพิชิตดินแดนยุโรปเหนือ/ตะวันออก และเปลี่ยน ให้คนในพื้ นที่รับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาท้องถิ่น ด้วยที่มั่นอันแข็งแรงเป็นที่ดึงดูดให้คนโปแลนด์ละเยอรมันแห่กันมาอยู่ในป้อมแห่งนี้ และต่อมาในปี ค.ศ. 1280 ก็ได้พัฒนากลายไปเป็นพันธมิตรการค้าของกลุ่ม ฮัมเซียติค (กลุ่มพ่อค้าเดินเรือเยอรมันและสแกนดิเนเวีย) ในอีกศตวรรษต่อมาก็ปรากฎว่าเมืองนี้ร่ำรวยจากการค้า สังเกตได้จากบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นมามากในศตวรรษที่ 1-15 รวมทั้งบ้านของนักดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียง นิโคลลาส โคเปอร์นิคุส เป็นตึกสูง 5 ชั้น ประดับหน้าบ้านด้วยลวดลายงดงาม ชมย่าน Torun Old Market Square ซึ่งประกอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่ก่อสร้างอย่างสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค จนได้รับการขึ้นบัญชีจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมเมื่อปี ค.ศ. 1997 ชมศาลาว่าการ Town Hall อาคารสำคัญที่ก่อสร้างด้วยศิลา แดง ซึ่งเป็นจุดเด่นของย่านชุมชนเก่า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองรอตสวาฟ (WROCLAW) ถือว่าเป็นที่นัดพบสำคัญในทวีปยุโรป มีความหลากหลายและการเปี่ยมล้นด้วยวัฒนธรรมของประวัติศาสตร์ในเมืองนี้ เป็นดังสะพานเชื่อม ที่เชื่อมระหว่างคนในแต่ละรุ่น แต่ละวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เป็นแบบเมืองที่ทันสมัยของเมืองใหญ่ ที่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ชีวิตที่เต็มด้วยวัฒนธรรมและการศึกษา และมากไปกว่านั้น เมืองรอตสวาฟใกล้เขตชายแดนของสองประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Scandic Wroclaw Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านผ่านชมมหาวิทยาลัยรอตสวาฟ (UNIVERSITY OF WROCLAW) มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงประจำเมืองรอตสวาฟซึ่งเคยผลิตบุคคลากรชั้นนำของโลกผู้ซึ่งชนะรางวัลโนเบลถึง 10 คนด้วยกันในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา (รางวัลโนเบลเป็นรางวัล ประจำปีระดับนานาชาติ ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการสแกนดิเนเวีย พิจารณาผลงานวิจัยหรือสิ่งประดิษฐ์ที่โดดเด่น หรือสร้างคุณประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม) โดยปัจจุบันรองรับนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยกว่า 40,000 คน ในอดีตยุคศตวรรษที่ 18 มหาวิทยาลัยแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสถานพยาบาล, โกดัง, และที่คุมขังเชลยสงครามสมัยยุคสงครามกับรัสเซีย นอกจากนี้ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยยังเคยถูกใช้เป็นฐานบัญชาการรบของกลุ่มนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองด้วย จากนั้นนำท่านชมความงามของเมืองรอตสวาฟเมืองที่เรียกได้ว่า Colorful city เป็นเมืองที่มีอาคารหลากสีสัน โดดเด่นสวยงาม เป็นเมืองเรียกได้ว่ามีชีวิตชีวาแห่งหนึ่งของโปแลนด์ และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 8 เมืองที่มีสีสันมากที่สุดในโลก (8 Colorful cities in the world) นำท่านถ่ายรูป กับอาคารหลากสีสันในจัตุรัสเมืองเก่า, ศาลาว่าการ (City Hall) และโบสถ์ประจำเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านสู่เมืองเชสโตโฮว่า (Czestochowa) เพื่อเยี่ยมชม วิหารจัสนาโกรา (Jasna Gora) ซึ่งเป็นวิหารที่ประดิษฐานของรูปนักบุญมาดอนนาสีดำ Black Madonna ซึ่งคนทั้งโลกที่นับถือคริสต์รู้จักเป็นอย่างดีด้วยปาฏิหาริย์ที่เล่าต่อกันมา ตัวโบสถ์สร้างใน ศตวรรษที่ 14 ในปี ค.ศ. 1382โดยการบริจาคที่ดินของท่านดุก แห่งโอปอล พร้อมทั้งได้มอบรูปที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า Black Madonna ซึ่งในขณะที่มอบให้ ภาพนี้ก็มีอายุหลายร้อยปีแล้ว จากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ก็พบว่าเป็นรูปในยุคไบเซนไทน์ตัววิหารได้รับการต่อเติมหลายครั้งในหลายศตวรรษต่อมา วิหารจัสนาโกรา ไม่ใช่เป็นเฉพาะสถานที่สำคัญทางศาสนาที่สุดของชาวโปลแต่ยังเป็น สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเอกราชอีกด้วย ซึ่งคุณพ่อออกัสตินนำผู้คนต่อต้านการยึดครองของชาวสวีเดน สำเร็จในปี ค.ศ. 1665 ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นนักแสวงบุญหลายล้านคนมาแสวงบุญ ณ วิหารแห่งนี้
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองคราคูฟ (Krakow) (ระยะทางประมาณ 102 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Golden Tulip Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทาง เข้าชมเหมืองเกลือวิลิซก้า (Wieliczka Saltmine) เหมืองเกลือที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของโปแลนด์เป็นเหมืองใต้ดินที่มหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แล ะรัฐบาลโปแลนด์ ได้ประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อปี 1994 นำท่านลงลิฟท์สู่ใต้ดินของเหมือง โดยชั้นที่ลึกที่สุดจะลึกถึง 327 เมตร ซึ่งที่มีค่าดุจทองคำ เพราะใช้ในการถนอมอาหารมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมเหมืองเก่าแก่ใต้ดินซึ่งประกอบไปด้วย แกลอรี่และห้องซึ่งสร้างและแกะสลักจากเกลือทั้งหมด ชมความงามของทะเลเกลือใต้พิภพ ซึ่งท่านไม่เคยได้เห็นที่ใดมาก่อน เหมืองเกลือในเมืองวีลิซกา องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในปี ค.ศ. 1988 อีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านขึ้นเขาวาเวล (The Wawel) ชมมหาวิหารวาเวล Wawel Cathedral สร้างระหว่างปี ค.ศ.1320-1364 บนพื้นที่ของโบสถ์โรมันในศตวรรษที่ 11 มหาวิหารดังกล่าวใช้เป็นสถานที่ราชาภิเษก และสุสานของกษัตริย์โปลนานหลายศตวรรษรวมทั้งเป็นสุสานของวีรบุรุษชาวโปลด้วย
นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวง “ Wawel Royal Castle ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในแบบเรอเนซองค์ โดยกษัตริย์ซิกมุนที่ 1 หลังจากพระราชวังเดิมในแบบกอธิคถูกไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1499 และถูกไฟไหม้อีกครั้งในศตวรรษที่ 16 ด้านทิศเหนือ จึงมีการสร้างใหม่ในแบบบาโรค เดินชมภายในพระราชวังซึ่งมีงานให้ชมหลายอย่าง อาทิ ผ้าปักเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ ภาพสีน้ำจากศิลปินเอกของยุโรป รวมถึง Botticelli ที่เราชื่นชอบผลงาน รวมทั้งงานประเภทอาวุธโบราณ และทรัพย์สมบัติของราชวงศ์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Golden Tulip Hote หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองซาโกปาเน่ (Zakopane) จัดเป็นเมืองที่สูงที่สุดในประเทศโปแลนด์เพราะตั้งอยู่ในเทือกเขาทาทร่า ซึ่งมีความสูงระหว่าง 750 ถึง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการแข่งขัน กีฬาฤดูหนาวหลายชนิด ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ มากมายของชาวโปแลนด์อีกด้วย มีประชากร 28,000 คนโดยประมาณแต่ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและชมความงามของเมืองนี้นับล้านๆ
จากนั้นนำท่านชมธรรมชาติทิวทัศน์ที่สวยงามแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ทุ่งหญ้า
หุบเขาและปราสาทโบราณโดยการ ล่องแพไม้ที่แม่น้ำดูนาเจค Dunajec Rafting แม่น้ำแห่งนี้ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีรายชื่อติดอยู่ในมรดกโลกของสถาบันยูเนสโกอีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินเที่ยวชมเมืองซาโกปาเน่ ซาโกปาเน่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ ห่างไม่กี่ไมล์จากชายแดนประเทศสโลวัก และเป็นเมืองตากอากาศในภูเขาตาตราที่คับคั่งไปด้วยนักสกีในช่วงฤดูหนาวและนักเดินป่าและนักปีนเขาตลอดทั้งปี ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 คาบเกี่ยวช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ซาโกปาเนได้กลายเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศโปแลนด์ ปัจจุบันยังคงมีอิทธิพลวัฒนธรรมเก่าแก่หลงเหลืออยู่ด้วยบ้านไม้ที่สวยงามอิสระเดินเที่ยวชมเมืองและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ณ ถนนคนเดิน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Crocus Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านขึ้นรถไฟไปยัง ยอดเขากูบาวุฟก้า (Gubalowka) หรือ MountGiewont บนความสูง 1,120 เมตร ซึ่งบนนี้เอง ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของ เมืองซาโกปาเน่ (Zakopane) ที่ ถูกโอบล้อมไว้ด้วยเทือกเขาทาทร่าแบบพาโนราม่างดงามเหนือคำบรรยาย
นำท่านเดินทางสู่เมืองออสวีซิม (Oswiecim) (128 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันออสวิทซ์ (Auschwitz ConcentrationCamp) ซึ่งปัจจุบันดูแลโดยรัฐบาลของโปแลนด์ เริ่มจากเยอรมันเข้ายึดโปแลนด์ได้ในปลายปี 1939 ความต้องการจะหาค่ายกักกันเชลยศึกต่างๆจนมาพบสถานที่ที่รัฐบาลโปแลนด์ต้องการก่อสร้างเป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองจึงได้ดัดแปลงตามความต้องการของนาซีและเริ่มต้นใช้ในช่วงมิถุนายน 1940 เป็นต้นมา ท่านจะได้เห็นภาพถ่ายต่าง ๆ ของค่ายกักกัน รวมทั้งของจริงที่มีการเก็บรักษาภายในตึกต่างๆ ถึง 20 อาคาร และท่านจะได้เห็นของใช้ต่างๆของเชลยชาวยิวที่ถูกหลอกให้มาอยู่ที่นี่ อาทิ กระเป๋าเดินทาง รองเท้า แปรงสีฟัน หวี และเส้นผมที่ว่ากันว่ามีน้ำหนักรวมกว่า 7 ตัน และชมห้องอาบน้ำ ห้องที่พวกนาซีใช้สำหรับกำจัดเชลยโดยใช้แก๊สพิษสังหารหมู่ พร้อมชมภาพยนตร์สั้นๆ ที่ถ่ายทำโดยทหารรัสเซีย เมื่อครั่งเข้ายึดค่ายนี้คืนจากเยอรมัน ว่ากันว่า ณ สถานที่นี้มีคนตายกว่า 1 ล้าน 5 แสนคน โดนเกือบทั้งหมดเป็นชาวยิว .....ได้เวลาเดินทางกลับคราคูฟ
นำท่าน ชมเมืองคราคูฟ ชมป้อมปราการ Barbacan อายุกว่า 600 ปี ปกปักรักษาเมืองหลงเ หลืออยู่ แนวกำแพงเมืองเดิมเป็นที่ชื่นชอบของศิลปินที่จะมาแสดงผลงานและชม ประตูเข้าเมือง Florain Gate ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถนนคนเดิน สมัยโรมันจากนั้นนำท่านสู่จัตุรัสใจกลางเมืองเป็นย่านช้อปปิ้งถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ ชมโบสถ์เซ็นต์แมรี่ (Mariacki Church) ที่มีชื่อเสียงของแท่นบูชาทำด้วยด้วยไม้แกะสลักมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ชมอาคารการค้าผ้าในอดีต (Cloth Hall) และถือว่าเป็นจุดหลักทางการค้าในสมัยนั้น กระทั่งจวบจนสมัยนี้อาคารนี้ก็ยังใช้เป็นสถานที่รับรองเชื้อพระวงศ์และเหล่าอาคันตุกะของเมืองสามารถช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึกได้ที่นี่
อิสระช้อปปิ้งสินค้าราคาประหยัดฝากคนที่บ้าน ณ ห้างสรรพสินค้าและ
สัมผัสไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในเมืองคราคูฟ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Golden Tulip หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงวอร์ซอร์ (Warsaw) (290 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
17.40 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงโดฮา โดยสายการบินการ์ต้า แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 260 (ใช้เวลาในการเดินทาง 5.35 ชั่วโมง)
23.55 น. ถึงสนามบินกรุงโดฮา เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
02.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ QR 836 (ใช้เวลาในการเดินทาง 7.00 ชั่วโมง)
13.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
31 พ.ค. 67 - 10 มิ.ย. 67 | 129,900 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
17 ก.ค. 67 - 27 ก.ค. 67 | 132,900 บาท | 28,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
07 ส.ค. 67 - 17 ส.ค. 67 | 132,900 บาท | 28,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
20 ก.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | 129,900 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
18 ต.ค. 67 - 28 ต.ค. 67 | 129,900 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
ที่อยู่ 63/53 หมู่ที่ 7 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 11150